top of page
Search

ขั้นตอนการทำขนมปังพร้อมแจกสูตรลับความอร่อย

หลายคนที่ชอบรับประทานอาหารประเภทขนมปัง ซึ่งเป็นอาหารที่รับประทานง่ายและมีสารอาหารที่ร่างกายต้องการและวันนี้ Punbun Bakery จะพาทุกท่านมาทำความเข้าใจในขั้นตอนการทำขนมปังและการทำงานของส่วนผสมหลักของขนมปังพร้อมแจกสูตรลับความอร่อย ให้ทุกท่านได้ทดลองทำรับประทานที่บ้านพร้อมครอบครัวกัน

ส่วนผสมของขนมปังมีอะไรบ้าง ?

ขนมปังที่ทุกท่านชอบทานนั้นหลักๆ แล้วมีส่วนผสมทั้งหมดอยู่ 4 อย่างดังต่อไปนี้

1.แป้งสาลี

เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุด โดยภายในแป้งจะมีโปรตีนอยู่ 2 ชนิดคือ กลูเตนิน Glutenin และเกลียดิน Gliadin เมื่อรวมตัวกับน้ำและผ่านการนวดผสม จะสร้างกลูเต็น Gluten ที่ทำให้โครงสร้างของเนื้อขนมปังเกิดความเหนียว และมีความยืดหยุ่นขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ที่ยีสต์สร้างขึ้น จึงทำให้ขนมปังเกิดความฟูขึ้นมา


2. ยีสต์

เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ใช้กันแพร่หลายในอุตสาหกรรมอาหาร โดยจะทำหน้าที่ย่อยสลายน้ำตาลที่อยู่ในแห้งให้กลายเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่จะทำให้ขนมปังมีความนุ่มฟู


3. ของเหลว

จะทำให้ส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้าด้วยกัน เช่น น้ำ, นม, ครีม ซึ่งจะช่วยให้ขนมปังมีความยืดหยุ่น ชุ่มชื้น และนุ่มยิ่งขึ้น


4. เกลือ

ในการทำขนมปังจะใช้เกลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากใส่เยอะไปจะทำให้ยีสต์หมักได้ช้าลง โดยเกลือจะเข้าไปทำให้โครงสร้างของกลูเต็นเกิดความแข็งแรง ขนมปังจึงมีความหนาแน่น อีกทั้งยังช่วยให้ขนมปังมีกลิ่นและรสชาติให้โดดเด่นขึ้นมา


ส่วนผสมทั้ง 4 อย่างนี้ จะช่วยทำให้คุณสามารถทำเมนูขนมปังออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งถ้าเป็นมือใหม่อยากทำขนมปังให้อร่อย ก็ต้องเรียนรู้การทำงานของส่วนผสมแต่ละชนิดให้ดี ทดลองทำซ้ำๆ จากนั้นจึงค่อยปรับสูตร ใส่ส่วนผสมเพิ่มเติมเข้าไปตามความชอบ แล้วคุณจะพบกับเมนูขนมปังในรูปลักษณ์และรสชาติตามแบบฉบับของคุณ


ขั้นตอนการทำขนมปังมีอะไรบ้าง ?

1. การผสมแป้ง

ส่วนที่ 1 ส่วนผสมของแห้ง ได้แก่ แป้ง ยีสต์ สารเสริมคุณภาพ นมผง ร่อนผสมเข้าด้วยกัน

ส่วนที่ 2 ส่วนผสมของเปียก ได้แก่ น้ำเย็น น้ำตาลทราย ไข่ไก่ เกลือป่น และ นมสด หรือนมข้นจืด คนให้เข้ากันจนละลาย

ส่วนที่ 3 ส่วนผสมไขมัน ได้แก่ เนยสด เนยขาว มาการีน หรือ น้ำมันพืช


การผสมแป้งวิธีนี้จะช่วยให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดี และช่วยให้กลูเต็นในแป้งถูกผสมจนถึงจุดที่ไใช้ได้ โดยสังเกตได้จากการรวมตัวของก้อนแป้งไม่เหนียวติดมือ และเครื่องผสมมีความนุ่มเนียนและสามารถดึงเป็นผ่นบาง ๆ ได้โดยไม่ขาด แต่ถ้าผสมแป้งหรือนวดแป้งน้อยเกินไป จะทำให้แป้งมีความยืดหยุ่นน้อย ขนาดของขนมจะลดลง หรือจะมีเนื้อสัมผัสหยาบ



2. การหมักแป้งหลังจากการผสม

แป้งหลังจากการผสมควรมีการพักแป้งก่อนสักระยะหนึ่งเพื่อให้แป้งคลายตัว ในการหมักนั้นโดยทั่วไปแล้วจะหมักโดยการคลึงแป้งเป็นก้อนกลม และหมักในอ่างผสม หรือคลึงเป็นก้อนกลมแล้วพักบนโต๊ะ โดยใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาด ๆ คลุมก้อนแป้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหน้าของก้อนแป้งแห้ง


3. การไล่อากาศในก้อนแป้ง

หลังจากแป้งถูกหมักจนได้ที่แล้วจะไล่อากาศที่มีมากเกินออกไป เพื่อให้ขนมปังมีเนื้อเนียน วิธีคือใช้มือกดเบา ๆ ที่ก้อนแป้ง หรือใช้เครื่องรีดเพื่อไล่อากาศ


4. การเตรียมก้อนแป้งใส่ไส้หรือพิมพ์

หลังจากไล่อากาศในก้อนแป้งแล้ว ตัดก้อนแป้งตามขนาดที่ต้องการ หลังจากนั้นใช้มือหรือเครื่องคลึงให้เป็นก้อนกลมจนผิวหน้าเรียบเนียน จากนั้นจะขึ้นรูปพักลงในพิมพ์ หรือพักให้ขึ้นเป็น 2 เท่า และนำมาใส่ไส้ตามต้องการ


5. การพักแป้งในพิมพ์

ระยะเวลาในการพักแป้งขึ้นอยู่กับขนาดก้อนแป้ง และอุณหภูมิที่ใช้ในการหมัก โดยทั่วไปแล้วจะใช้อุณหภูมิที่ประมาณ 32-40 องศาเซลเซียส ซึ่งในระหว่างการหมักนั้นต้องใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำหมาด ๆ คลุมแป้งเพื่อป้องกันผิวหน้าของก้อนแป้งแห้งกระด้าง ในปัจจุบันถ้าเป็นระบบอุตสาหกรรมหรือร้านที่ขายดีก็จะใช้ตู้หมักแป้ง โดยตู้หมักแป้งสามารถปรับระดับอุณหภูมิที่ใช้ในการหมักได้ จึงช่วยให้ได้ก้อนแป้งที่พองตัวอย่างรวดเร็ว


6. การอบและการตกแต่งหลังการอบ

โดยทั่วไปอุณหภูมิที่ใช้ในการอบอยู่ที่ 350-400 องศาฟาเรนไฮต์ ส่วนระยะเวลาขึ้นอยู่กับขนาดก้อนแป้ง ก่อนอบบางสูตรอาจจะเพิ่มสีสันแก่ขนมปัง โดยจะมีการทาหน้าขนมปังด้วยไข่ไก่ นมสด เป็นต้น และเมื่ออบสุกแล้วถ้าต้องการให้ขนมปังเป็นมันเงา จะทาหน้าขนมปังด้วยเนยสดทับอีกที ขนมก็จะดูมันเงา จึงนำออกจากพิมพ์หรือถาดอบ บางสูตรจะมีการตกแต่งหลังการอบเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีและสะดุดตาน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น การตกแต่งนั้นมีหลายวิธี เช่น การโรยหน้าขนมด้วยน้ำตาลไอซิ่ง หรือ การตกแต่งด้วยน้ำสลัดครีม จึงพักบตะแกรงจนเย็นสนิทเื่พื่อป้องกันการเกิดราได้ง่าย จากนั้นจึงบรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่เตรียนมไว้ หลังจากการบรรจุแล้วควรเก็บขนมปังไว้ในห้องที่ไม่แห้งจนเกินไป และมีอุณหภูมิที่เย็นพอเหมาะ



การหมักแป้งก่อนขึ้นรูปมี 3 วิธี คือ

1. การผสมแป้ง 2 ขั้นตอน คือให้นำแป้ง 30% กับยิสต์และน้ำ 25% ของน้ำหนักแป้งผสมให้เข้ากัน แล้วหมักให้ขึ้นฟูเป็น 2 เท่าตัวจึงนำไปใส่เครื่องผสมกับส่วนผสมที่เนลือจนส่วนผสมเนียนดี จึงนำออกมาแบ่งน้ำหนักแล้วขึ้นรูปได้เลย


2. ผสมส่วนผสม ตีรวมกันทั้งหมดจนเนียน จึงนำออกมาพักให้โตขึ้นเป็น 2 เท่าตัว จึงนำมาแบ่งน้ำหนักแล้วปั้นขึ้นรูปได้เลย


3. วิธีที่ 3 (จะมีส่วนผสมของหัวเชื้ออยู่ในสูตรอยู่แล้ว) สามารถเลือกใช้ส่วนที่งายที่สุดและออกมาดี (ถ้าไม่มีสูตรแป้งก็ให้ใช้วิธีที่ 1 และ 2 ได้เพื่อความสวยงามของผิวขนมปัง)


การผสมแป้งถูกวิธีและส่วนประกอบ

1. การเลือกใช้ยีสต์สำหรับขนมปังจืดในการทำขนมปังฝรั่งเศส

2. น้ำที่ใช้ควรเป็นน้ำเย็นจัด หรือถ้าผสมในจำนวนมาก ๆ ให้เพิ่มน้ำแข็ง

3. ถาดที่ใช้ควรทาเนยขาวแล้วโรยด้วยแป้งบาง ๆ

4. ก่อนอบใช้น้ำฉีดให้ผิวขนมปังชื้น ในกรณีใช้หัวแก็ส

(เตาไฟฟ้าแบบมีสตรีมน้ำ)

5. การผสมแป้งที่ไม่มีแป้งเชื้อควรหมักแป้งก่อนทุกครั้ง


วิธีผสมแป้ง

1. วิธีผสมแบบขั้นตอนเดียว Straight Dough Method

1.1 ตวงส่วนผสมที่ใช้ทั้งหมดในสูตร

1.2 ละลายน้ำตาล เกลือ ไข่ ในน้ำ

1.3 เทแป้ง ยีสต์ นมผง ลงในอ่างผสม ผสมใ้ห้เข้ากัน

1.4 เติมสารละลายของน้ำลงไป ผสมด้วยความเร็วต่ำของเครืองพอเข้ากัน

1.5 ใส่เนยลงไปผสมกันจนกระทั่งได้แป้งที่มีลักษณะเนียน

1.6 นำไปพักก่อนที่จะขึ้นรูปต่อไป


2. การผสมแบบสองขั้นตอน Sponge & Dough Method

2.1 ขั้นตอนแรก (Sponge)นำแป้ง ยีสต์ และน้ำที่มีส่วนผสมของ

สปองจ์โดยผสมให้เข้ากันแต่ไม่กับต้องแป้งเนียน นำไปหมัก 2-3 ชั่วโมง

2.2 ขั้นตอนที่ 2 (Dough) เมื่อหมัก Sponge ได้ที่แล้ว ให้เติมส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดในสูตรลงไป ได้แก่ แป้ง น้ำตาล น้ำ นมผง ไข่ไก่ ผสมพอเข้ากัน ใส่ไขมันผสมต่อจนก้อนแป้งเนียน นำไปหมักแล้วขึ้นรูป



3. การผสมแบบทุ่นเวลา (No Time Dough Method)

ใช้วิธีการผสมเหมือนแบบขั้นตอนเดียว แต่มีการเติมสารเสริมคุณภาพลงในแป้งเพื่อช่วยลดขั้นตอนในการหมักช่วงแรกลง


การหมักโด

เมื่อนวดแป้งขนมปังได้ที่แล้ว ต้องหมักก้อนแป้งไว้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ห้องที่หมักควรมีอุณหภูมิ 80 องศาฟาเรนไฮต์ และ ความชื้นสัมพัทธ์ 70-78% เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวของแป้งแห้งเกินไป การหมักโดถ้าทำในฤดูหนาวขนมปังจะขึ้นช้า เราอาจจะแก้โดยนำไปตั้งใกล้เตาไฟ (เตาไฟที่จุดแล้ว) หรือนำไปวางไว้ในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง ก็จะทำให้ก้อนแป้งขึ้นได้เร็วขึ้น เมื่อหมักก้อนแป้งจนขึ้นแล้วเรามีวิธีการทดสอบโดยการกดลงในแป้งลึก 2-3 นิ้ ซึ่งสังเกตได้จากรอยบุ๋ม


1. ถ้ารอยนิ้วถูกดันขึ้นมาจนมองไม่เห็นรอยที่กดลงไป แสดงว่าก้อนแป้งยังหมักไม่ได้ที่ต้องหมักต่อไปอีก

2. ถ้ารอยนิ้วถูกดันขึ้นมาจนเหลือรอยบุ๋มเล็กน้อย แสดงว่าก้อนแป้งถูกหมักได้ที่แล้ว

3. ถ้ารอยนิ้วบุ๋มอยู่อย่างเดิม แสดงว่าหมักแป้งนานเกินไป


แจกสูตรลับทำขนมปัง

1.สูตรขนมปังเนยสด

ส่วนผสม

สูตรนี้ทำขนมปังเนยสดได้ จำนวน 8 ชิ้น ขนาดชิ้นละ 50 กรัม

  • แป้งขนมปัง 160 กรัม

  • แป้งสาลี 40 กรัม

  • ยีสต์ 5 กรัม

  • เนยสด 40 กรัม

  • ไข่ไก่ 1 ฟอง

  • นมสด 90 กรัม

  • น้ำตาล 50 กรัม

  • เกลือ 1/4 ช้อนชา

  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา


วิธีทำขนมปังเนยสด

  • ขั้นตอนแรกให้เตรียมชามผสมก่อนจะใส่ไข่ไก่ 1 ฟอง ตามด้วยนมสด 90 กรัม เกลือ 1/4 ช้อนชา กลิ่นวานิลลา และน้ำตาล 50 กรัม แล้วจึงคนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันจนน้ำตาลละลาย และพักทิ้งไว้

  • ใช้ชามผสมใบใหม่สำหรับเตรียมของแห้ง ใส่แป้งขนมปัง 160 กรัม แป้งสาลี 40 กรัม และยีสต์ 5 กรัม พร้อมคนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน

  • นำชามผสมแรกที่ใส่ของเหลวเอาไว้มาเทผสมกับชามผสมแป้ง แล้วจึงตะล่อมส่วนผสมทั้งหมด จนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน

  • หลังจากนั้นใส่เนยสดอุณหภูมิห้องปริมาณ 40 กรัมตามลงไป ตีส่วนผสมด้วยความเร็วปานกลางจนรู้สึกว่าเนื้อแป้งเริ่มเนียน แนะนำให้เช็คแป้งโดยการนำแป้งมาลองขึงเป็นแผ่นฟิล์ม ถ้าไม่แป้งไม่ขาดออกจากกันแสดงว่าแป้งใช้ได้แล้ว

  • นวดแป้งให้แป้งคลายตัวจากความเป็นก้อนเล็กน้อย แล้วจึงนำแป้งไปพักใส่ชามผสมไว้ ก่อนจะใช้แร็ปพลาสติกปิด และพักแป้งจนกว่าขนาดของแป้งจะขยายตัวใหญ่ขึ้นประมาณ 2 เท่า (วิธีเช็คว่าแป้งขยายตัวขึ้นแล้วคือถ้าจิ้มลงไปบนแป้งจนเป็นรู แป้งจะไม่เด้งตัวหดกลับ แสดงว่าใช้ได้แล้ว)

  • นำแป้งมาตัด แบ่งให้แต่ละก้อนมีขนาดก้อนละ 50 กรัม แล้วจึงนำมาคลึง ปั้นให้เป็นกันกลมๆ (หรือปั้นเป็นรูปทรงตามใจชอบ) แล้วจึงนำใส่กระดาษรองอบ หรือแม่พิมพ์ พักทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีเพื่อให้แป้งขยายตัวอีกรอบ ระหว่างนี้วอร์มเตาอบรอ

  • ก่อนอบทาด้วยไข่เจือน้ำบางๆ เพื่อให้หน้าขนมปังออกมาเงาสวย

  • อบไฟบน-ล่าง 180 องศา ประมาณ 15 นาที เมื่อครบเวลานำออกมาทาด้วยเนยบางๆ พักไว้บนตะแกรงให้เย็นสนิท

  • นำมาทาด้วยเนยสดให้ฉ่ำไปทั่วหน้า ก่อนจะตามด้วยโรยไอซิ่ง หรือน้ำตาลตามใจชอบ พร้อมนำเสิร์ฟได้เลย


2.ขนมปังหมูหยองมายองเนส

ส่วนผสม

สูตรนี้ทำขนมปังหมูยองมายองเนส ได้จำนวน 5 ชิ้น ขนาดชิ้นละ 50 กรัม

  • แป้งขนมปัง 250 กรัม

  • แป้งสาลี 100 กรัม

  • นมผง 20 กรัม

  • ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ

  • นมสด 200 กรัม

  • น้ำตาล 70 กรัม

  • เกลือ 1/4 ช้อนชา

  • ไข่ 1 ฟอง

  • เนยสด 80 กรัม

  • เอสพี 5 กรัม

  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

  • สูตรหมูหยองมายองเนส

  • หมูหยองผสมมายองเนส 100 กรัม (หรือปริมาณตามใจชอบ)


วิธีทำขนมปังหมูหยองมายองเนส

  • วิธีทำขนมปังหมูหยองมายองเนสขั้นตอนแรกให้นำแป้งขนมปัง 250 กรัม แป้งสาลี100 กรัม ตามด้วยนมผง 20 กรัม และยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมทั้งหมดให้เข้ากัน

  • เตรียมชามผสมใบใหม่สำหรับของเหลวให้ใส่เกลือ 1/2 ช้อนชา ตามด้วยนมสด 200 กรัม และไข่ไก่ 1 ฟอง ตีให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน

  • นำชามผสมของเหลวมาเทใส่ชามผสมแป้ง แล้วจึงเริ่มตีผสมกันด้วยความเร็วต่ำ จนแป้งและส่วนผสมของเหลวเป็นเนื้อเดียวกัน (ไม่ต้องเนื้อละเอียดมาก) จึงใส่เนยสด 80 กรัม ตามด้วยเอสพี 5 กรัม พร้อมตีส่วนผสมต่อจนเนื้อเริ่มเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน และให้เช็คว่าถ้าหากส่วนผสมได้ที่แล้วเนื้อแป้งจะนำมาทำเป็นแผ่นฟิล์มบางๆ แบบไม่ขาดได้

  • หลังจากนั้นนำแป้งมาพักไว้ พร้อมแร็ปพลาสติกปิด พักแป้งทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีจนแป้งขยายตัวฟูขึ้นเป็นสองเท่า และให้เช็คด้วยวิธีการจิ้มลงไปที่ไปถ้าแป้งที่ขยายไม่เด้งหดกลับตัว แสดงว่าแป้งใช้ได้แล้ว แล้วจึงนำแป้งมาใช้ไม้ทุบเพื่อไล่อากาศออก

  • ตัดแบ่งแป้งให้ได้ก้อนละประมาณ 50 กรัม แล้วจึงนำมารีดให้เป็นแผ่นแบนแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าเตรียมใส่ไส้

  • ใส่ไส้หมูหยองที่นำไปผสมกับมายองเนสแล้วเรียบร้อย โดยใส่ไส้ให้ชิดด้านเข้าหาตัว ก่อนจะพันหมุนตัวแป้งให้เป็นก้อน ทำแบบนี้จนครบทุกชิ้น ก่อนจะวางที่ถาดเตรียมอบที่ทาเนยไว้แล้ว พร้อมทาไข่ที่ผสมน้ำจางๆ บนขนมปังก่อนอบ

  • อบด้วยไฟบน-ล่างอุณหภูมิ 180 องศา ประมาณ 30 นาทีจนได้สีเหลืองทองสวย เมื่อสุกแล้วนำออกจากเตาทาไข่ผสมน้ำอีกรอบ พักจนหายร้อน พร้อมนำเสิร์ฟได้เลย


3.ขนมปังไส้กรอก

ส่วนผสม

สูตรนี้ทำขนมปังไส้กรอกได้ จำนวน 18 ชิ้น ชิ้นละ 15 กรัม

  • แป้งขนมปัง 500 กรัม

  • นมผง 20 กรัม

  • ยีสต์ 10 กรัม

  • น้ำตาลทราย 100 กรัม

  • เกลือ 10 กรัม

  • น้ำเปล่า 250 กรัม

  • ไข่ไก่ 1 ฟอง

  • เนยจืด 50 กรัม

  • เนยขาว 50 กรัม

  • ไส้กรอก

วิธีทำขนมปังไส้กรอก

  • เปิดเตาอบด้วยไฟบน-ล่างที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้

  • ใส่แป้งขนมปัง 500 กรัม ตามด้วยนมผง 20 กรัม ตามด้วยยีสต์ 10 กรัม น้ำตาลทราย 100 กรัม และเกลือ 10 กรัมตีผสมให้เข้ากันด้วยความเร็วต่ำ

  • หลังจากนั้นเติมน้ำเปล่า 250 กรัม และไข่ไก่ 1 ฟองลงไปตีด้วยจนเข้ากัน

  • ใส่เนยจืด 50 กรัม และเนยขาว 50 กรัม ตีต่อไปเรื่อยๆ จนเนื้อส่วนผสมเนียนละเอียดขึ้น

  • นำแป้งพักในชามผสม และแร็ปพลาสติกเพื่อพักแป้งทิ้งไว้เพื่อให้แป้งขยายตัวใหญ่ขึ้น

  • มื่อได้ที่แล้วนำแป้งมาตัดแบ่งให้ได้ก้อนละ 50 กรัม แล้วจึงคลึงแป้งแต่ละก้อนให้เป็นเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า พร้อมนำใส่กรอกมาวาง แล้วม้วนไส้กรอกจนมิด แล้วจึงตัดแบ่งเป็น 3 ท่อน

  • พักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้ขนมปังขึ้นฟูเป็นสองเท่า ระหว่างนี้วอร์มเตาอบรอได้เลย

  • นำขนมเข้าอบด้วยไฟบน-ล่างที่อุณหภูมิ 180 องศา อบประมาณ 35 นาที

  • นำออกออกจากเตา พักให้หายเย็น พร้อมเสิร์ฟ


และสุดท้ายนี้ใครที่ชอบรับประทานขนมปังหรือขนมปังอบกรอบ ปันบัน ของเรามีสินค้ามาแนะนำให้ทุกท่านได้ลิ้มลองกัน

ขนมปังเนยสดอบกรอบ เนยสดพรีเมี่ยม 70 g

ใช้เนยแท้ 100% ไม่มีส่วนผสมของเนยเทียม หรือ มาการีน

ไม่ใส่วัตถุกันเสีย และสารปรุงแต่งรสชาติ

ส่วนประกอบทุกอย่างปราศจากการทอดด้วยน้ำมัน

อายุการเก็บรักษา สามารถเก็บไว้ได้นาน


จำนวน 1 แพ็ค ประกอบไปด้วย 3 ถุง

ขนาดถุงละ 70 กรัม

ราคา 150 บาทเท่านั้น


เพื่อความพึงพอใจสูงสุดสำหรับการบริการของเราปันบันจึงเป็นขนมปังเนยสดอบกรอบ ที่เป็นมากกว่าขนมปัง "ปันบัน" ความอร่อยที่อยาก...แบ่งปันคิดถึงความอร่อยคิดถึง Punbun Bakery


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Line@: @Punbun-bakery

Facebook: Punbun Bakery

Email: Punbunbakery@gmail.com

Telephone: 062-442-6142


bottom of page